Sunday, 17 August 2025

เสียงจากชาวนา หลังรัฐจ่ายเงินช่วยเหลือไร่ละ 1,200 บาท

เสียงจากชาวนา หลังรัฐจ่ายเงินช่วยเหลือไร่ละ 1,200 บาท

 

หลังจากที่ภาครัฐมีการพิจารณาอนุมัติโครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตให้แก่เกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปี ปีการผลิต 2568/69 โดยจะจ่ายเงินช่วยเหลือไร่ละ 1,200 บาท (ไม่เกิน 10 ไร่ต่อครัวเรือน) บ้านหนองหิน ม.4 ตำบลโคกก่อ อำเภอเมือง จังหวัดมหาสารคาม เพื่อติดตามเสียงสะท้อนจากชาวนาในพื้นที่จริง

หนึ่งในเกษตรกรที่ให้ข้อมูลคือ นางจิราภรณ์ อินทะสร้อย ประธานกลุ่มข้าววิสาหกิจชุมชนปลูกข้าวอินทรีย์บ้านหนองหิน ซึ่งมีสมาชิกในกลุ่ม 47 คน และรวมพื้นที่ทำนาประมาณ 50 ไร่ โดยปลูกข้าวหอมมะลิอินทรีย์เป็นหลัก

นางจิราภรณ์ เปิดเผยว่า กลุ่มเกษตรกรปลูกข้าวอินทรีย์ต้องหาตลาดขายเอง ส่วนใหญ่จะจำหน่ายผ่านโครงการเกษตรอินทรีย์ โดยข้าวหอมมะลิ 105 ขายได้กิโลกรัมละ 20 บาท ข้าวหอมนิลมะลิแดงอยู่ที่กิโลกรัมละ 25 บาท แต่ต้นทุนที่ต้องแบกรับยังสูง

 

เสียงจากชาวนา หลังรัฐจ่ายเงินช่วยเหลือไร่ละ 1,200 บาท

 

เช่น ลงทุนต่อไร่ประมาณ 2,800–3,500 บาท

ค่าจ้างไถดะไร่ละ 200-250 บาท

ค่าหว่าน + ไถกลบตอซัง ไร่ละ 750 บาท

หากใช้ปุ๋ยเคมี ราคากระสอบละ 1,000 บาท

เมื่อเปรียบเทียบกับเงินช่วยเหลือของรัฐที่ไร่ละ 1,200 บาท นางจิราภรณ์กล่าวว่า ไม่พอแน่นอน แต่ก็ถือว่าดีกว่าที่ไม่ช่วยเลย เพราะเงินก้อนนี้ยังพอช่วยจุนเจือต้นทุนพื้นฐาน เช่น เมล็ดพันธุ์ ปุ๋ย หรือค่าแรงต่าง ๆ ได้บ้าง

แม้จะรู้สึกดีใจที่รัฐบาลไม่ทอดทิ้งเกษตรกร แต่นางจิราภรณ์เสนอแนะว่า หากรัฐสามารถปรับเพิ่มเงินช่วยเหลือเป็น ไร่ละ 1,500 บาท โดยยังคงจำกัดไม่เกิน 10 ไร่ต่อครัวเรือน ก็จะยิ่งเป็นแรงส่งสำคัญให้เกษตรกรสามารถดำรงชีพได้อย่างมั่นคง และลดภาระหนี้สินที่สะสมอยู่

สำหรับราคาขายข้าวในท้องตลาด หากขายให้โรงสีทั่วไป จะอยู่ที่ <;13 บาท/กิโลกรัม เท่านั้น และนาน ๆ ทีถึงจะได้ถึง 15 บาท ซึ่งไม่ครอบคลุมต้นทุนที่ต้องลงทุนลงแรงไปแต่ละฤดูกาล เสียงจากชาวนาคือเสียงจากดินจริง ๆ และแม้มาตรการรัฐอาจยังไม่ครอบคลุมทั้งหมด แต่ก็เป็นก้าวหนึ่งที่เกษตรกรอยากให้พัฒนาและต่อยอด เพื่อรักษาอาชีพสำคัญของประเทศให้เดินหน้าต่อไปได้อย่างยั่งยืน

 

เสียงจากชาวนา หลังรัฐจ่ายเงินช่วยเหลือไร่ละ 1,200 บาท