จากเว็บต่างประเทศ ได้รายงานว่า ถั่วถือเป็นกลุ่มอาหารที่ดี อุดมไปด้วยไขมันดี โปรตีน และสารต้านอนุมูลอิสระ แต่ถั่วทั้ง 4 ประเภทนี้กลับไม่เป็นเช่นนั้น ถั่ว เช่น อัลมอนด์ เม็ดมะม่วงหิมพานต์ วอลนัท เกาลัด… ถือเป็นกลุ่มอาหารที่ดี อุดมไปด้วยไขมันดี โปรตีน และสารต้านอนุมูลอิสระ อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า การรับประทานถั่วต้องเลือกบริโภคอย่างพิถีพิถัน มีถั่ว 4 ประเภทที่ไม่ควรรับประทานโดยเด็ดขาด เพราะอาจก่อให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บ หรือแม้แต่มะเร็ง
1. ถั่วขึ้นรา นี่คือความเสี่ยงสูงสุด ถั่วมีความไวต่อเชื้อรา Aspergillus มาก ซึ่งก่อให้เกิดอะฟลาทอกซิน ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งที่รุนแรง การศึกษาแสดงให้เห็นว่าอะฟลาทอกซินสามารถทำลายตับ เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งตับ กระเพาะอาหาร ไต และลำไส้
2. ถั่วที่ไหม้เกรียมหรือคั่วนานเกินไป ถั่วมีไขมัน โปรตีน และแป้งสูง เมื่อคั่วที่อุณหภูมิสูงเกินไป สารเหล่านี้จะถูกทำให้เสียสภาพ ก่อให้เกิดสารพิษหลายชนิด เช่น เบนโซ(เอ)ไพรีน อะคริลาไมด์ ซึ่งล้วนแต่สามารถก่อให้เกิดมะเร็งได้
3. เมล็ดพืชถูก “ตกแต่ง” ด้วยสารเคมี เมล็ดพันธุ์บางชนิดในท้องตลาดถูกย้อมและฟอกสีด้วยสารเคมีเพื่อให้ดูสวยงาม สารแต่งสีอุตสาหกรรมและพาราฟินที่ไม่ได้ใช้ในอาหารอาจเป็นพิษและค่อยๆ สะสมในร่างกาย เมล็ดที่ปอกเปลือกแล้ว เช่น พิสตาชิโอ มีแนวโน้มที่จะดูดซับสารเคมีเคลือบผิวมากกว่า
4. เมล็ดพืชที่มีรสชาติเข้มข้นเกินไป เมล็ดพืชที่มีรสชาติเค็ม รสเนย หรือหมักด้วยรสชาติต่างๆ มักมีเกลือ รสชาติสังเคราะห์ และสารให้ความหวานเทียมอยู่มาก นอกจากนี้ รสชาติที่เข้มข้นยังเป็นเคล็ดลับในการกลบกลิ่นของเมล็ดพืชเก่าหรือเมล็ดที่เริ่มเน่าเสีย
ข้อควรระวังเมื่อรับประทานเมล็ดพืช
เมล็ดพืชมีพลังงานสูงมากและอุดมไปด้วยไขมัน หากคุณรับประทานอาหารมากเกินไปในระหว่างวัน โดยเฉพาะอาหารที่มีไขมันสูง คุณไม่ควรรับประทานเมล็ดพืชเพิ่ม เพราะจะทำให้ระดับพลังงานสูงเกินระดับปกติได้ง่าย ในเวลากลางคืนหรือใกล้เวลานอน คุณไม่ควรรับประทานเมล็ดพืช เพราะอาจทำให้ท้องอืดได้
ผู้ที่มีอาการท้องเสียหรือมีอาการอักเสบเฉียบพลันในระบบทางเดินอาหาร ควรหยุดรับประทานเมล็ดพืชชั่วคราว เนื่องจากใยอาหารและน้ำมันในเมล็ดจะทำให้อาการแย่ลง สำหรับผู้ที่มีอาการร้อนใน มีแผลในปาก เจ็บคอ การรับประทานเมล็ดพืชมากเกินไปก็จะทำให้รู้สึกไม่สบายตัวมากขึ้นเช่นกัน