วันที่ 8 ม.ค. 2568 กรมควบคุมโรค รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ว่ามีจำนวนผู้ป่วยรายใหม่ รักษาในโรงพยาบาล 6 วันแรกของปี 2568 อยู่ที่ 1,967 ราย โดยแยกเป็นสองช่วง ได้แก่ ช่วงวันที่ 1-4 ม.ค.2568 มีผู้ป่วย 1,391 คน และช่วงวันที่ 5-6 ม.ค.มีผู้ป่วย 576 คน ไม่พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม และไม่พบปอดอักเสบหรือใส่เครื่องช่วยหายใจ จังหวัดที่มีผู้ป่วยโควิด-19 สูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ กรุงเทพ มหานคร 59 ราย ชลบุรี 41 ราย เชียงใหม่ 28 ราย สงขลา 26 ราย และจันทบุรี 18 ราย
ด้าน นพ.ยงยศ ธรรมวุฒิ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เปิดเผยว่า จากการติดตามสายพันธุ์โควิด-19 ภาพรวมทั่วโลกจากฐานข้อมูล GISAID ตั้งแต่วันที่ 14 ต.ค.ถึง 10 พ.ย.2567 สายพันธุ์ KP.3.1.1* พบมากที่สุด ในสัดส่วนร้อยละ 45.6 ตามมาด้วยสายพันธุ์ XEC พบร้อยละ 28.4 และสายพันธุ์ JN.1* พบร้อยละ 13.1 ส่วนสถานการณ์สายพันธุ์โควิด-19 ในไทย
ขณะนี้สายพันธุ์โอมิครอน JN.1* เป็นสายพันธุ์ที่พบมากที่สุด จำนวนทั้งหมด 1,480 คน คิดเป็นสัดส่วนสะสมร้อยละ 66.23 ของสายพันธุ์ทั้งหมดที่พบในประเทศไทย ดังนั้นกรณีที่มีการเผยแพร่ข้อมูลทางสื่อสังคมออนไลน์ว่ามีการแพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาครอน XBC นั้น กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ขอยืนยันว่าข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อมูลเก่า
กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ยังคงเฝ้าระวังการเปลี่ยนแปลงสายพันธุ์อย่างต่อเนื่อง จากข้อมูลการถอดรหัสพันธุกรรมในรอบ 30 วัน คือ วันที่ 23 พ.ย.ถึง 22 ธ.ค.2567 จำนวน 45 คน พบเป็นสายพันธุ์ JN.1* มากที่สุด รองลงมาคือ XEC, KP.2* ตามลำดับ โดยประเทศไทยเผยแพร่ข้อมูลการถอดรหัสพันธุกรรมสะสมในฐานข้อมูลกลาง GISAID จำนวน 47,369 คน นับตั้งแต่เริ่มสถานการณ์ระบาดโรคโควิด-19 ในประเทศไทย
ทั้งนี้ องค์การอนามัยโลกยังแนะนำให้บุคคลที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อและมีอาการรุนแรง เข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด-19 อย่างน้อย 1 เข็มและรับเข็มต่อไปห่างจากเข็มแรก 6-12 เดือน ผู้ที่ต้องติดต่อหรือสัมผัสกับกลุ่มเปราะบาง หรือกลุ่มเสี่ยงควรรับวัคซีนร่วมกับการปฏิบัติตนตามมาตรการป้องกันการติดเชื้ออย่างสม่ำเสมอ เช่น การสวมหน้ากากอนามัย การปิดปาก ปิดจมูกเมื่อไอหรือจาม และการล้างมือเป็นประจำ