“ลิซ่า เลสลีย์” พยาบาลต่างชาติ แฉยับวัดพระบาทน้ำพุ ฟังแล้วได้แต่ตกใจ ชี้เคยถูกขู่เมื่อผู้ป่วยมีอาการดีขึ้น แถมยาต้านเชื้อก็ถูกขโมย
จากกรณีประเด็นร้อน วัดพระบาทน้ำพุ ที่ก่อนหน้านี้ นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อ เคยหยิบยกบทความข่าวปี 2014 มาพูดถึงปัญหาโรคเอดส์ พร้อมเล่าเรื่องราวของพยาบาลอาสาสมัครชาวต่างชาติรายหนึ่ง ที่ตั้งใจมาช่วยดูแลผู้ป่วย แต่กลับต้องเผชิญทั้งการถูกขู่ฆ่า และปัญหายาต้านเชื้อที่ถูกขโมย จนสุดท้ายต้องตัดสินใจบินกลับประเทศ
ล่าสุด ทีมข่าวช่อง 8 ได้มีโอกาสสัมภาษณ์ ลิซ่า เลสลีย์ พยาบาลอาสาคนดังกล่าว โดยเธอเล่าย้อนถึงช่วงเวลาที่ทำงานอยู่ที่วัดว่า
ในระยะแรก มีการนำผู้ป่วยไปโรงพยาบาลเพื่อรับยาที่บ้านเกิดเท่านั้น แต่ต่อมาได้ปรับให้สามารถรับยาที่โรงพยาบาลได้
เธอเคยขออนุญาตวัดทำบันทึกประวัติผู้ป่วยอย่างเป็นทางการ แม้วัดจะไม่ตอบรับชัดเจน สุดท้ายจึงเก็บข้อมูลเองผ่านการสัมภาษณ์ผู้ป่วย จนมีข้อมูลกว่า 53 คนได้รับยาต้านไวรัส
ต่อมาวัดขอให้ส่งคืนประวัติ และโครงการดังกล่าวก็ยุติลง เอกสารผลเอ็กซเรย์ของผู้ป่วยยังหายไปจากออฟฟิศ ขณะเดียวกันมีข้อห้ามไม่ให้อาสาสมัครต่างชาติเข้าถึงยาต้านอีก
ลิซ่าเผยว่า การทำงานถูกจำกัดมากขึ้น ทั้งออฟฟิศถูกปิด ไม่สามารถเก็บข้อมูลผู้ป่วยได้ อีกทั้งหัวหน้าพยาบาลยังเตือนว่า หากไม่ออกไปอาจถูกฆ่า ต่อมาเธอยังพบว่ารถมอเตอร์ไซค์ถูกกรีดยาง จนรู้สึกไม่ปลอดภัยและจำเป็นต้องยุติภารกิจ
เธอทิ้งท้ายว่า ตลอดระยะเวลา 14 เดือน ที่ปฏิบัติงานอยู่ในวัด เธอไม่เคยได้พบหรือพูดคุยกับหลวงพ่อเลยแม้แต่ครั้งเดียว และรู้สึกว่าวัดไม่ได้ชื่นชมเมื่อผู้ป่วยมีอาการดีขึ้นด้วยซ้ำ