
ถึงว่าโดนค้นบอกเป็นโรงงานเถื่อน เจ้าของยาดมหงส์ไทย พูดหมดเปลือก หลังโดนมรสุมหนัก ตัดพ้อธุรกิจ 20 ปี ถูกทำลายใน 2 วัน
“ยาดมหงส์ไทย” กำลังเป็นที่สนใจในตอนนี้ เพราะเชื่อว่า คนไทยส่วนใหญ่มีติดกันทุกบ้านแน่นอน กระทั่งเกิดเรื่องขึ้นว่า ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ทลายโรงงานเถื่อน ลักลอบผลิตผลิตภัณฑ์สมุนไพร ยาดมยี่ห้อดัง พร้อมยึดของกลางกว่า 2 ล้านชิ้น มูลค่ากว่า 100 ล้านบาท เมื่อวันที่ 30 ต.ค. 68 สืบเนื่องจากปรากฏข่าว กรณี อย.ได้ออกประกาศว่า พบการปนเปื้อนเชื้อจุลินทรีย์ ในผลการตรวจวิเคราะห์ผลิตภัณฑ์ยาดมสมุนไพรยี่ห้อดัง

เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายธีระพงศ์ ระบือธรรม หรือ เก่ง ผู้ก่อตั้งและเจ้าของบริษัท สมุนไพรไทย หงส์ไทย จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายยาดมหงส์ไทย เปิดเผยว่า วันที่ 30 ต.ค. 68 ได้เดินทางไปยังสถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ สทน. เพื่อทำการตรวจสอบ และแก้ไขปัญหาจุลินทรีย์ใน “ยาดมสมุนไพรสูตร 2 ล็อตที่ 332” หลังอย.พบปัญหาการปนเปื้อนจุลินทรีย์ ซึ่งได้นำสินค้าทุกตัวไปฉายแสง และพบว่าค่าจุลินทรีย์เป็นศูนย์ ถือว่าไม่ส่งผลเสียต่อผู้บริโภค

ทว่าเรื่องดังกล่าวไม่จบลงง่ายๆ เนื่องจาก มีรายงานล่าสุดออกมาว่า สถานที่ที่ใช้ติดสติกเกอร์ และบรรจุใส่โหลย่านพุทธมณฑลสาย 3 ถูกระบุว่าเป็นโรงงานเถื่อน ซึ่งเรื่องนี้ นายธีระพงศ์ อธิบายว่า เนื่องจากเราผลิตไม่ทัน เพราะมีออเดอร์เข้ามามาก จึงได้หาพื้นที่และซื้อเครื่องติดสติ๊กเกอร์เพิ่ม เพื่อแก้ปัญหาผลิตไม่ทัน ในขณะเดียวกันเราได้ลงทุนก่อสร้างโรงงานที่พุทธมณฑลสาย 4 ซึ่งได้ก่อสร้างตามแบบที่ อย.อนุมัติแล้ว
แต่ก่อนที่จะได้รับการอนุญาต ต้องยื่นเรื่องการขอใบอนุญาตจาก สสจ.สมุทรสาครก่อน เมื่อเราไปติดต่อก็ระบุว่า ถ้ามีเครื่องจักรเข้ามาอีก ต้องรอให้พร้อมก่อน จึงทำให้ยังไม่ได้ใบอนุญาตจาก อย. ตอนนี้เรื่องบานปลาย จนเกิดความเสียหายเยอะ น่าจะประเมินค่าไม่ได้แล้ว จากที่เรากำลังแก้เรื่องนี้ มาเจอเรื่องนี้ เราก็พยายามแก้ปัญหา ไม่ได้นิ่งเฉย ต้องแก้ทีละเรื่อง เราก็ต้องทำงาน หาเงินเลี้ยงองค์กรด้วยเช่นกัน

“จากธุรกิจที่เราทำมา 20 ปี ถูกทำลายไปใน 2 วันนี้ ไม่ใช่แค่ชื่อเสียงเราที่เสีย ยังมีชื่อเสียงของประเทศไทยที่เสียไปด้วย คาดว่ายังมีลูกค้าที่ยังเชื่อมั่นเราแค่ 10% อีก 90% น่าจะหายไป ผมก็ไม่อยากจะทำผิด แต่จะให้ผมทำยังไง ทุกอย่างมันบีบบังคับ เราไม่ได้บอกว่าเราดื้อดึง เราพยายามแก้ปัญหาอยู่ และต้องยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่มีข้อโต้แย้ง จากนี้ขอดูท่าที เขาจะสรุปกับผมว่าอย่างไร จะให้โอกาสหรือขยี้ผมให้จมดินเลย ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของ อย.และสังคมด้วย”
นอกจากนี้ นายธีระพงศ์ ยังทิ้งท้ายด้วยว่า อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาเราก็ต่อสู้มาทุกด้าน เมื่อเจอเหตุการณ์นี้ก็รู้สึกท้อ และอยากจะถามว่า ทำไมไม่เปิดโอกาสให้เรา ไม่ใช่เอากฎระเบียบมาขยี้แบบนี้ ถ้าผิดก็เตือนให้เราแก้ไข ดีกว่าที่จะพิฆาตเราเลย อยากถามแค่ว่า มีทางออกให้ผมได้ทำสำเร็จไหม และขอย้ำว่า เราทำธุรกิจด้วยความสุจริตและตั้งใจ
